วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

การวัดพลังงานที่ใช้ในร่างกาย

การวัดพลังงานที่ใช้ในร่างกาย
ทำได้ 2 วิธี คือ การวัดโดยตรง และการวัดโดยอ้อม
                การวัดพลังงานหรือแคลอรีโดยตรง (direct calorimeter)  เป็นการวัดความร้อนที่เกิดขึ้น หรือสูญเสียจากร่างกายซึ่งเกิดจากการทำงานของร่างกายโดยตรงไม่ว่าร่างกายจะอยู่นิ่ง หรือกำลังมีการทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง เครื่องมือที่ใช้โดยมากเป็นห้องปิดสนิทที่เรียกว่า แคลอรีมิเตอร์วัดการหายใจ (respiration calorimeter) ห้องดังกล่าวมีลักษณะเป็น 2 ชั้น ผนังชั้นในถ่ายเทความร้อนได้สะดวกระหว่างผนัง 2 ชั้น
มีท่อน้ำไหลผ่านเพื่อวัดอุณหภูมิของน้ำที่สูงขึ้น และปริมาณน้ำที่ระเหยไป ดังแสดงในรูปที่ 1 จากปริมาณของน้ำที่ไหลผ่านห้องในและอุณหภูมิของน้ำที่เพิ่มขึ้น สามารถคำนวณปริมาณของพลังงานหรือความร้อนที่เกิดขึ้นในร่างกายในช่วงเวลาที่ทำการทดลองนั้น
ความร้อนที่ออกจากร่างกายหรือพลังงานที่ใช้ไป = จำนวนกรัมของน้ำ × อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น ()
                ในปัจจุบันไม่นิยมวิธีนี้ เนื่องจากมีความคลาดเคลื่อนมาก เพราะในทางปฏิบัติมักวัดปริมาณออกซิเจนที่บุคคลนั้นหายเข้าใจและคาร์บอนไดออกไซด์ที่หายใจออกไว้ด้วย แล้วหาค่าแคลอรีต่อ 1 ลิตรของออกซิเจนที่ใช้

รูปที่ จำลองการวัดพลังงานที่ใช้ในร่างกายโดยตรง
ที่มา : Wildman and Miller, 2004

                การวัดพลังงานหรือแคลอรีทางอ้อม (indirect calorimeter) โดยใช้เครื่องมือสำหรับการหายใจซึ่งยกตัวไปมาได้สะดวก แล้ววัดปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายใช้ขณะพักผ่อนหรือเมื่อกำลังทำงาน และปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ขับออกมา ดังที่แสดงในรูปที่ 2



รูปที่ 2 เครื่องวัดพลังงานทางอ้อมโดยวัดปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายใช้และคาร์บอนไดออกไซค์ที่ขับออกมา
ที่มา : Wardlaw, Hampl and Disilvestro, 2004

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น